HIGHLIGHT :
ในช่วงชีวิตของคนเรานั้น การเปลี่ยนแปลงสถานภาพหนึ่งไปสู่อีกสถานภาพหนึ่ง เราต้องละเลิกนิสัยหรือความเคยชินบางอย่างเพื่อให้ชีวิตมันดีขึ้น เช่น เมื่อแต่งงานเราต้องเลิกนิสัยบางอย่างที่เราเคยทำตอนที่ยังโสด หรือ เมื่อเราเริ่มสร้างธุรกิจของตัวเอง เราก็ต้องเลิกพฤติกรรมที่เราเคยเป็นตอนเราเป็นมนุษย์เงินเดือน
การจะทำให้ธุรกิจก้าวขึ้นระดับต่อไปก็เช่นกัน มีบทเรียนใหม่ๆ ให้ต้องเรียนรู้ โอกาสใหม่ที่ต้องไขว่คว้า และมีปัญหาใหม่ๆให้ต้องแก้ไข แต่สำคัญกว่านั้นยังมีสิ่งที่ต้อง “ละเลิกหรือหยุดทำ” เพื่อให้ก้าวสู่ความสำเร็จเร็วขึ้น
1. เลิกค้นหาแต่วิธีการ ให้มองหาคนที่มีความเชี่ยวชาญมาช่วยหาวิธีการทำงานให้ได้ผลดีกว่า
2. เลิกความคิดยึดติด ตอนเริ่มต้นธุรกิจคุณอาจใช้คุณสมบัติ ความชำนาญ บางอย่างในการสร้างมันขึ้นมา แต่การก้าวสู่ขั้นต่อไป จะต้องเลิกยึดติดกับสิ่งที่ผ่านมา
3. เลิกเข้าใจว่าความไม่ชัดเจนเป็นเรื่องปกติ ในบริษัทส่วนมากพนักงานจะถูกลงโทษ เมื่อรับทราบข้อบกพร่องหรือข้อผิดพลาด ทำให้พนักงานสูญเสียความกล้าในการตั้งคำถามเมื่อไม่เข้าใจในงานที่ได้รับมอบหมาย การเปิดกว้างคือก้าวแรกของการมีนวัตกรรม กระตุ้นให้พนักงานเปิดเผย กล้าถามในสิ่งที่ยาก คลุมเครือ อย่าให้เข้าใจกันไปว่าเป็นเรื่องปกติ
4. เลิกทำงานคนเดียว ควรเชื่อมโยงบทบาทของพนักงานแต่ละคนเข้าไว้ด้วยกัน เมื่อแต่ละคนเห็นการเชื่อมโยงของงานมันจะเกิดพลัง และรู้สึกถึงความสำคัญ มีความหมายในงานของตนเอง อย่าปล่อยให้ใครแก้ปัญหาโดยลำพัง อย่าปล่อยให้ใครทำงานโดยไม่มีการสื่อสาร การทำเช่นนั้นจะทำให้ไม่เกิด Peak Productivity
5. เลิกสร้างแรงจูงใจให้พนักงานด้วยสิ่งที่สร้างแรงจูงใจให้เจ้าของ เมื่อเป็นการลงทุนทางการเงิน แน่นอนว่าคนจะต้องการ return หรือผลตอบแทนที่เป็นตัวเงิน เมื่อเป็นการลงทุนที่ทำด้วยความตั้งใจ คนจะต้องการการสนับสนุน ผู้ประกอบการกับพนักงานคิดต่างกัน การสร้างแรงจูงใจให้พนักงานต้องทำให้พนักงานทำงานด้วยใจและให้การสนับสนุน อย่ามุ่งไปที่ตัวเงินโดยตรงอย่างเดียว
6. เลิกใช้เงินเป็นแรงจูงใจให้พนักงาน ในหนังสือ Drive: The Surprising Truth About What Motivates Us บอกว่า เงินจะเป็นแรงจูงใจที่ดีกับงานที่ทำซ้ำๆ ทำเป็นชิ้นๆ แต่กับงานที่ต้องใช้ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ ผลลัพธ์จะเป็นไปในทางตรงข้าม
7. เลิกระแวงสงสัย มันเป็นธรรมชาติของผู้มีบทบาทในฐานะผู้นำ ที่มักจะมีแนวโน้มไม่เชื่อใจหรือระแวงสงสัย ซึ่งเป็นเรื่องที่จะมีผลเสียมากกว่า เพราะเมื่อคุณคิดว่าผู้อื่นมีแรงจูงใจหรือเป้าหมายแอบแฝง คนอื่นก็คิดกับคุณในแบบเดียวกัน และเมื่อเกิดปัญหาขึ้นภายในองค์กร พนักงานจะไม่กล้าบอกอย่างตรงไปตรงมา
8. เลิกหมกมุ่นกับการคิดหาวิธีปกป้องตัวเอง (แก้ตัว) ใช้เวลาและพลังงานในตัวเองไปในการคำตอบหรือการแก้ไขปัญหาจะดีต่อตนเองและต่อส่วนรวม
9. เลิกการมีปฏิกิริยาตอบโต้ เมื่อเกิดวิกฤติคนเรามักลืมทุกสิ่งที่เคยเรียนรู้มาจากการอ่านหนังสือ จากพี่เลี้ยงหรือที่ปรึกษา และจะเริ่มพึ่งพาสัญชาตญาณในการตอบโต้ ซึ่งจะไม่เป็นผลดี คุณควรจะต้านทานพลังของสถานการณ์ไว้ให้ได้ และฝ่าฟันเพื่อไปสู่ความสำเร็จ
การจะทำให้ธุรกิจเติบโตขึ้นนั้น มีทั้งสิ่งที่ต้องทำและต้องไม่ทำ ซึ่งอาจยากทั้งสองแบบ แต่เมื่อเราได้เริ่มต้นและพยายามทำต่อเนื่อง มันจะกลายเป็นพฤติกรรมที่กำหนดความสำเร็จมาให้แก่องค์กรต่อไป